cut – The House of Devil
VI
เมื่อดวงอาทิตย์ โลกและดวงจันทร์เคลื่อนตัวมาทาบทับกันทำให้เกิดเป็นคืนพระสีเลือด
ค่ำคืนแห่งการชำระล้างคำสาปและคำทำนายทั้งปวง การเตรียมพร้อมสำหรับพิธีกรรมนี้ได้รับการดูแลอย่างดีจากนายหญิงของคฤหาสน์ตระกูลลี
ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมห้องให้พร้อมหรือแม้กระทั่งการเตรียมอ่างไม้ภายในหอดูดาว
ช่วงเวลาขยับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีทำให้อาการตื่นเต้นนั้นตรงเข้ามาเล่นงานเด็กหนุ่มอีกครั้ง
ร่างกายของแจมินมีเพียงชุดคลุมสีแดงเข้มยาวลากพื้นเท่านั้นที่ปกปิดผิวนวลเนียนนั้นเอาไว้
เขาเดินเข้าไปภายในหอดูดาวที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นมาพร้อมกับเจโน่ โคมไฟตั้งพื้นที่เคยวางอยู่กลางห้องบัดนี้มันถูกยกออกไปเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งในคฤหาสน์แห่งนี้
และถูกแทนที่ด้วยอ่างไม้สีเข้มซึ่งภายในบรรจุน้ำสีฟ้าโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดง
“รออยู่ในนี้ก่อนนะจ๊ะ ใกล้ถึงพิธีแล้วเจโน่จะเข้ามา
อย่ากลัวแล้วก็ปล่อยใจให้สบาย
สายน้ำจะช่วยพาพวกเธอเดินทางไปยังยอดเขาและดิ่งกลับลงมาสู่พื้นหญ้า น้าพูดได้เท่านี้
ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกชายน้าเองนะ”
“เอ่อแล้ว..”
“จ๊ะ”
“ผมต้องลงไปในนั้นไหมครับ”
แจมินชี้ไปที่อ่างไม้กลางห้อง
“จ๊ะ ต้องลงแต่ว่ารอเจ้าลูกชายฉันมาถึงก่อนนะ
ทำตามเค้าไว้แล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ”
“ครับคุณน้า”
“ขอตัวนะ”
“ครับ”
แม้จะเตรียมใจมาสักพักแล้วสำหรับเรื่องนี้แต่เพราะยังไม่เคยและเพราะเป็นเจโน่เขาจึงค่อนข้างประหม่ามากพอสมควร
ยิ่งมันเป็นหนึ่งในพิธีกรรมที่ชี้เป็นชี้ตายโลกทั้งใบแล้วด้วยนั้นเขายิ่งรู้สึกกดดันจนเผลอขมวดคิ้วจนกลายเป็นปม
เสียงประตูดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมันถูกเปิดออก เด็กหนุ่มย่างกรายเข้ามาอย่างใจเย็น
มือหนาสัมผัสที่ท้ายทอยของแจมินแผ่วเบาพลางลูบไล้ลงมายังแผงอก คนตัวบางสูดหายใจเข้าเต็มปอดเมื่อรับรู้ได้ถึงการมาของใครบางคน “ผ่อนคลายเข้าไว้” เสียงแหบต่ำกระซิบข้างใบหูก่อนที่ริมฝีปากจะแตะเบา
ๆ ที่ข้างแก้ม
แจมินหลับตาลงและปล่อยให้คนด้านหลังดึงเชือกที่ผูกเอวของเขาออก
ชุดคลุมถูกถอดลงมากองยังพื้นไม้
ความเงียบสงัดในค่ำคืนนี้ทำเอาแจมินกังวลว่าในช่วงเวลาอันใกล้นี้จะเกิดเสียงน่าอายดังลั่นไปทั่วคฤหาสน์
เขาเผลอแขม่วท้องเมื่อมือหยาบลูบไล้ตรงหัวไหล่
“เจโน่”
“หื้ม”
“ฉันต้องลงไปในอ่างไหม”
“อื้ม ลงไปสิ”
แจมินเดินเข้าไปใกล้อ่างไม้ก่อนจะก้าวเข้าไปด้านในและนั่งลงจนระดับน้ำอยู่บริเวณหน้าอก
เขาหันหน้ารับแสงจันทร์ที่กำลังจะกลายเป็นสีแดงในไม่ช้า
เจโน่เดินอ้อมมาหยุดยืนตรงหน้าแจมิน พลางถอดชุดคลุมออกเช่นกัน
ร่างกายที่ไร้สิ่งปกปิดทำเอาคนที่มองอยู่ต้องเบนสายตาไปทางอื่น เจโน่ก้าวลงไปแล้วนั่งประจันหน้ากับแจมิน
มือหนายกขึ้นลูบไปตามกรอบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ก่อนจะกดจูบริมฝีปากนั้นอย่างโหยหา
มือเรียวโอบรอบลำคอแกร่งพลางเอียงหน้ารับจูบอย่างว่าง่าย
เขาถอนจูบออกมาเมื่อเห็นว่าแจมินหายใจไม่ทัน “เปลี่ยนที่กัน”
“อื้ม”
เจโน่เข้ามานั่งแทนที่และดึงให้อีกคนมานั่งตักโดยที่ในตอนนี้ทั้งคู่หันหน้าเข้าดวงจันทร์
มือหนาลูบเข้าที่ส่วนกลางเพื่อกระตุ้นแรงอารมณ์
“อ๊ะ”
“ไม่เคยเหรอ” แจมินส่ายหน้าแทนคำตอบพลางหลับตาแน่น “มือตัวเองก็ไม่เคย”
“อื้อ”
“เยี่ยม”
เด็กหนุ่มด้านหลังยิ้มกริ่มก่อนจะสายตาจะมองไปยังท้ายทอยของคนบนตัก
ริมฝีปากหยักฝากร่องรอยเอาไว้บนนั้นด้วยความละเมียดละไม ทีละรอยด้วยความใจเย็น
และเมื่อดวงอาทิตย์ โลกและดวงจันทร์เคลื่อนตัวมาหยุดยังจุดเดียวกันเปรียบเสมือนประตูนรก
โลกมนุษย์และสวรรค์ได้เปิดออกพร้อมกัน พลังวิเศษได้ถูกปลดปล่อย
เจโน่จับเอาท่อนเนื้อของตนสอดใส่เข้าไปที่ช่องทางของคนบนตัก
“อ๊ะ!”
“ทนหน่อยนะเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว”
แจมินพยักหน้ารับก่อนจะจับขอบอ่างแน่น มือหนาเลื่อนขึ้นยังแผงอกพลางลูบไล้
ก้านนิ้วยาวหยอกล้อเข้ากับยอดอก
แสงจันทราที่สาดส่องลงมากระทบเข้ากับผิวเนียนทำเอาเจโน่แทบครองสติของตนเอาไว้ไม่อยู่
เขาขยับสะโพกสวนขึ้นเมื่ออีกฝ่ายก็กดสะโพกลงมาหาเขาเช่นกัน จังหวะอันเร่งเร่าทำให้คนด้านล่างต้องคอยคุมจังหวะไม่ให้เร็วเกินไป
เพราะเขายังอยากทำต่อไปเรื่อย ๆ มากกว่าจะให้เสร็จในทันที
มือเรียวจับที่ท่อนแขนแกร่งพลางเอี้ยวตัวไปรับจูบอันวาบหวาม
เสียงน่าอายดังลั่นไปทั่วโดยที่พวกเขาลืมนึกไปว่าเสียงมันจะดังลอดออกไปข้างนอกหรือไม่
พวกเขาสนแค่กันและกันรวมไปถึงบทรักอันร้อนแรงนี้เท่านั้น เสียงเนื้อกระทบกันดังสลับกับเสียงจูบ
ของเหลวสีใสไหลเลอะออกมาตามมุมปาก แพขนตาฉ่ำไปด้วยหยดน้ำตาแห่งความสุข
เจโน่ขยับสะโพกสวนขึ้นไปอย่างแรงโดยไม่ตั้งใจทำเอาคนบนตักร้องเสียงหลงออกมา
แจมินบิดเร้าร่างกายตามความเสียวซ่านที่ได้รับพลางนึกถึงคำพูดของจองยอน สายน้ำจะช่วยพาพวกเธอเดินทางไปยังยอดเขาและดิ่งกลับลงมาสู่พื้นหญ้า
ยอดเขาที่ว่าของหมายถึงตอนนี้เขารู้สึก
เพราะไม่ใช่เพียงสายน้ำที่พาเขาไปแต่เพราะเจโน่ด้วยที่พาเขาไปถึงยังจุดที่สูงที่สุดบนยอดเขา
เด็กหนุ่มกระตุกเกร็งเมื่อแรงกระแทกสุดท้ายพาพวหเขาให้ปลดปล่อยของเหลวสีขุ่นออกมา
และถูกดึงกลับลงมายังพื้นหญ้าอีกครั้งโดยการถอดท่อนเอ็นออกจนเกือบหลุดออกจากกันแต่แล้วก็สอดกลับไปใหม่ด้วยความแรง
“อ๊า!”
เสียงหอบแหบพร่าดังอยู่ข้างหูโดยที่เจโน่โน้มตัวไปแนบชิดกับแผ่นหลังของแจมินที่ในตอนนี้ฟุบหน้าลงกับหลังมือตัวเองที่เกาะขอบอ่างอยู่ “แจมิน”
“อย่าเรียกตอนนี้”
“ทำไมครับ”
“เขิน”
“หันหน้ามาให้จูบหน่อย”
“อื้อ”
ริมฝีปากประทับกันอีกครั้งก่อบังเกิดแสงสีขาวรอบร่างกายของเด็กหนุ่มทั้งสอง
เป็นจังหวะเดียวกับที่จันทร์สีเลือดค่อย ๆ เลือนลับไป
เขาถอนจูบออกมาก่อนจะส่งยิ้มให้กัน “ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องทรมานกับคำสาปแล้วนะ”
“อื้ม”
“แล้วก็...”
“อะไร”
“คืนนี้ขอไปค้างด้วยคนนะ”
“มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว”
#ปีศาจnm
อ่านเนื้อเรื่องหลักต่อ .. https://bit.ly/2Nr2IeI
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น