OMEGAVERSE: Petrichor
CUT-PART 4
alpha
…กลิ่นของไม้โอ๊กที่ใช้หมักไวน์ช่างเชื้อเชิญให้ได้ลิ้มลองรสชาติอันแสนหอมหวาน
กลิ่นของไวน์ที่หมักได้ที่พร้อมมอมเมาได้ทุกเวลา
และกลิ่นของเขาช่างสร้างความต้องการที่โหยหามาตลอดได้เป็นอย่างดี…
omega
…กลิ่นหลังฝนตกมักชวนให้ใจเต้นเสมอ
กลิ่นไอดินที่ลอยขึ้นจากพื้นดินเมื่อต้องสายฝนแรกของฤดูมักเย้ายวนใจเสมอ
และกลิ่นของเขาช่างสร้างความปั่นป่วนในช่องท้องได้อย่างน่าประหลาด…
กว่าหนึ่งสัปดาห์ที่แจมินเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่
เขาได้เจอเข้ากับอัลฟ่าซึ่งรู้ได้โดยทันทีว่าคนนี้แหละคือคู่ของเขาแต่ปัญหาดันอยู่ตรงที่อีกฝ่ายไม่ยอมทำอะไรสักที
เขาไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงนักหรอกแถมยังคิดไปเองคนเดียวอีกด้วยว่าเจโน่นั้นต้องมีโอเมก้าที่ถูกใจอยู่ก่อนแล้วเป็นแน่
หลังจากการปรับตัวในสถานที่ใหม่จนเริ่มเข้าที่เข้าทางเด็กหนุ่มก็พบว่าการเลือกมาอยู่ชนบทเป็นความคิดที่ดีที่สุด
มันไม่วุ่นวาย เงียบสงบและอบอุ่น แตกต่างจากการอยู่ในเมืองอันแสนวุ่นวาย
คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาแต่กลับเปล่าเปลี่ยว เหมือนเขาเป็นเพียงจุดสีดำเล็ก
ๆ บนผืนผ้าใบสีขาว และเมื่อเขาอยู่ที่นี่ ตรงนี้ ตอนนี้ เขากลับรู้สึกกลมกลืนราวกับเป็นต้นหญ้าในทุ่งกว้างดังเช่นทุก
ๆ คน
เช้าวันนี้อากาศดูแปลก ๆ
แจมินรู้สึกคัดจมูกขึ้นมากะทันหันอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาเดินไปหาเจโน่ที่ยืนคุมคนงานเก็บองุ่นในไร่อย่างตั้งใจ “มาแล้วเหรอ”
“ครับ”
“ไม่สบายเหรอ”
เพียงแค่สังเกตแวบเดียวเท่านั้นเจโน่ก็รู้ได้ว่าแจมินผิดปกติ
“ไม่แน่ใจครับ
ผมรุ้สึกหายใจไม่ค่อยโล่งเท่าไหร่”
“เป็นภูมิแพ้สินะ วันนี้ฝนคงตก”
“พี่รู้ได้ไง ฝนไม่ตกมาทั้งอาทิตย์แล้วนะครับ
อากาศก็แห้งออกปานนี้”
“ยอดหญ้าไม่มีน้ำค้างเกาะมาสองสามวันแล้ว
ฝนตกแน่วันนี้”
“พี่มั่นใจเหรอครับ”
“มั่นใจสิ ถามทำไม”
“พนันกันไหม”
“เป็นเด็กเป็นเล็กริเล่นการพนัน” เจโน่ผลักศีรษะคนเด็กกว่าเบา ๆ
“กลัวแพ้ล่ะสิ”
“งั้นว่ามา”
“ถ้าฝนตกจริงผมจะไม่ยั่วพี่อีก
แต่ถ้าฝนไม่ตก...”
“ทำไม”
“เย็นนี้ไปเล่นน้ำด้วยกันที่ลำธารท้ายไร่นะครับ”
“ยังไงฝนก็ตกนะแจมิน แต่จะเล่นด้วยก็ได้”
“เย้”
“ไปทำงานได้แล้ว”
“ครับผม”
แม้เจโน่จะให้แจมินเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการบ่มไวน์แต่เมื่อคนงานมีจำนวนไม่พอต่อการเก็บผลผลิตจึงจำเป็นต้องเด็กหนุ่มโอเมก้าคนนี้เข้ามาช่วยก่อน
ร่างบางขะมักเขม้นกับการเก็บองุ่นโดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนคอยมองอยู่ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เจโน่อยู่แล้ว
กว่าที่เด็กหนุ่มจะรู้ตัวว่ามีใครคอยมองอยู่อีกฝ่ายก็เดินเข้ามายืนซ้อนหลังเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กลิ่นอัลฟ่าของอีกฝ่ายรุนแรงมาก
แต่มันไม่ได้กระตุ้นให้เขารู้สึกอยากเลยสักนิด
“เจโน่ไปไหนซะล่ะ”
“ไม่ทราบครับคุณแจฮยอน” แจมินตอบโดยไม่หันไปมอง
เพราะแทนที่จะเป็นหลังที่ชนกับแผงอกนั่นคงกลายเป็นใบหน้าแทนที่ชน
“มันไม่มาเฝ้าโอเมก้าอย่างนายหรอกเหรอ
ไม่ระวังเลยนะ”
“ระวังอะไรครับ”
“ฉันไง”
แจมินตัวแข็งทื่อเมื่อมือหนาลูบวนบริเวณหัวไหล่ด้านซ้าย “อัลฟ่าที่ยังไม่ได้ผูกพันธะกับโอเมก้ามีแค่ฉันกับเจโน่
นายควรระวังฉันไว้ให้ดี”
“แต่ผมเป็นคู่กับพี่เจโน่นะครับ”
“แต่ไม่ได้ผูกพันธะกันฉันก็มีสิทธิ์แย่งนายมาเป็นของตัวเองได้นะ”
“จะทำอะไร!!!”
เจโน่สาวเท้าเข้ามาใกล้พี่ชายของตนก่อนจะกระชากมือปลาหมึกออกจากตัวของโอเมก้า “บอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับคนของฉัน”
“ก็ไม่เห็นทำอะไรสักทีเลยคิดว่าคงเปิดโอกาสให้ฉัน”
“นิสัยแย่งของคนอื่นน่ะเลิกได้แล้วนะแจฮยอน
ส่วนนายน่ะมานี่”
มือหนาคว้าเอาข้อมือเล็กมาจับไว้แล้วออกแรงกระชากให้เดินตามไปทางโรงบ่มไวน์
“ผมเจ็บนะ”
“เดี๋ยวนี้หัดอ่อยคนอื่นด้วยเหรอ”
“ผมอยู่ของผมเฉย ๆ คุณแจฮยอนเค้าเข้ามาเอง”
“แล้วนายก็ปล่อยให้มันเกาะแกะแบบนั้นน่ะเหรอ
สมยอมล่ะสิ”
“เอ้อ! แล้วมันทำไม
ถ้าผมสมยอมแล้วพี่จะทำไม เราสองคนเป็นอะไรกันพี่ถึงมาหวงผมออกนอกหน้าแบบนี้”
หยดน้ำตาที่พยายามฝืนมันเอาไว้ไม่ให้ไหลแต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแรงโน้มถ่วงของโลก
อัลฟ่าหนุ่มรู้สึกแย่เมื่อเห็นน้ำตาของอีกฝ่ายเขาจึงปรับระดับน้ำเสียงลงและพยายามใจเย็นขึ้น “ก็บอกให้อดทนรอก่อน”
“พี่รู้อะไรไหมว่าการรอพี่ก็เหมือนกับการรอฝนในหน้าแล้ง
ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ตอนไหนหรืออาจไม่มีอีกเลย พี่กำลังฝืนสัญชาตญาณตัวเองและบังคบให้ผมฝืนไปด้วย
พี่ไม่เคยปฏิเสธความต้องการของเราแต่พี่เลี่ยงที่จะทำมัน
พี่เอาแต่บอกว่าให้ผมรอผมก็รอแล้วสุดท้ายผมก็ได้แค่ความคลุมเครือ
เรากอดจูบกันเป็นเรื่องปกติแต่กลับไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ถ้าเกิดผมท้อที่จะรอพี่ขึ้นมาผมถามพี่สักคำว่าพี่จะทำยังไง”
แจมินพูดสิ่งอัดอั้นตันใจออกมาจนหมดเปลือก
เขาปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวก ๆ ก่อนจะถูกอีกฝ่ายดึงเข้าไปกอดแน่น
ใบหน้าหล่อซบลงที่ซอกคอเนียน อ้อมกอดอันอบอุ่นโอบอุ้มเขาให้ลอยขึ้นเหนือพื้น “ขอโทษ”
เจโน่พูดแค่คำนี้เพียงคำเดียวจากนั้นก็พาเด็กหนุ่มไปยังห้องด้านในสุดของของโรงบ่ม
อ่างไม้โอ๊กใบใหญ่ตั้งไว้กลางห้อง “พี่จะทำอะไรครับ”
เจโน่ไม่ตอบ เขาวางแจมินไว้ในถังไม้ก่อนจะเปิดก๊อกที่ติดกับถังไม้บ่มไวน์ให้แอลกอฮอล์รสนุ่มไหลลงมาในอ่างไม้จนเต็ม
อัลฟ่าหนุ่มถอดเสื้อผ้าส่วนบนออกเผยให้เห็นแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยงาม
เขาเดินเข้าไปใกล้กับอ่างไม้แล้วจับมือเล็กมาวางไว้ที่ขอบกางเกง “ถอดให้พี่สิ”
แจมินเม้มปากแน่นพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วผ่อนมันออกมาในทันที
เด็กหนุ่มมองมือของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อสบตากับอีกฝ่าย “พี่ถอดให้ผมก่อนสิครับ” เด็กมันขี้ยั่วจริง ๆ
คนร่างหนาใช้พละกำลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการฉีกเสื้อผืนบางของเด็กหนุ่มให้ขาดเป็นสองชิ้น
เอวบางที่เขามักจินตนาการถึงตอนนี้มันมาอยู่ตรงหน้าของเขาโดยไร้สิ่งปกปิดแล้ว
กางเกงที่เป็นอุปสรรคก็ถูกจัดการฉีกจนขาดเป็นที่เรียบร้อย ส่วนกลางนูนเด่นล่อตาล่อใจให้อารมณ์พุ่งสูงจนเกินการควบคุม
กลิ่นของความเป็นอัลฟ่าเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อเขาก้าวเข้าไปยืนในอ่างไม้
สิ่งคับแน่นภายใต้กางเกงกำลังเล่นงานเจ้าตัวให้ปวดหนึบ “ถอดให้ได้หรือยังครับ”
แจมินพยักหน้าก่อนจะย่อตัวลงไปแล้วใช้ปากงับที่ขอบกางเกงแล้วดึงมันลงมา
เมื่อไร้สิ่งปกปิดเขาจึงได้รู้ว่าความใหญ่โตที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
ริมฝีปากบางจุมพิตไปที่แท่งเอ็นที่กำลังร้อนรุ่ม
ฝ่ายคนที่ยืนมองการกระทำนั้นแทบไม่หลงเหลือสติแล้ว “ผมอยากโดนพี่กัดแล้วนะ”
“ยั่วเก่งนักนะ”
“ยั่วขนาดนี้แต่พี่ก็ยังไม่เอาเลยนี่นา”
“หึ มานี่มา”
เขาดึงแจมินให้ยืนขึ้นพลางประคองกอดไว้ รสจูบแสนหวานที่ผสมกับกลิ่นไวน์แดงชั้นเลิศกำลังมอมเมาให้เด็กหนุ่มเคลิบเคลิ้ม
หัวสมองขาวโพลนเมื่อช่องทางถูกเบิกออกด้วยนิ้วมือเรียวยาว
สายตาปรือฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความสุขสมทอดมองคนตรงหน้าอย่างรักใคร่
“อื้อ...พี่เจโน่”
“ครับ”
“หนู อื้อ...” สรรพนามแทนตัวเองของแจมินทำเอาเจโน่มันเขี้ยว
มือข้างที่นวดคลึงบั้นท้ายเปลี่ยนมาเป็นตีมันแรง ๆ ให้ขึ้นริ้วสีแดง “โอ๊ย! เจ็บนะ”
“ดื้อนัก”
“ตีอีกสิ หนูชอบ”
“ไหนบอกว่าเจ็บ”
“ก็เจ็บแต่ชอบ”
ช่องทางที่ถูกเปิดทางเอาไว้ดูเหมือนจะพร้อมเต็มที่แล้ว
สารหล่อลื่นที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้เองตามกลไกของโอเมก้า
แท่งเนื้อร้อนถูกส่งเข้าไปทันทีที่นิ้วเรียวยาวถูกดึงออกมา
ความคับแน่นทำเอาเจโน่ต้องนิ่วหน้าเพราะมันตอดรัดเขาเสียจนไม่กล้าขยับ “พี่ขยับเลยก็ได้นะครับ” เสียงแหบห้าวบอก
“เจ็บนะ”
“ชอบ”
แขนแกร่งช้อนเอาเรียวขาสวยขึ้นมาประคองไว้จากนั้นก็กระแทกสวนเข้าไปจนคนร่างบางหวีดร้องเสียงหลง “อ๊า!!!”
“ชอบใช่ไหม”
เสียงเข้มสั่นไปตามแรงกระแทกจากนั้นก็ปรับจังหวะให้คงที่
ไม่เร็วไปไม่ช้าเกินเพื่อให้ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้กัน ริมฝีปากหยักดูดดึงซอกคอจนเกิดร่องรอยสีช้ำ
เจโน่ลากลิ้นลงที่แผงอกพร้อมกับเล็มเลียราวกับแจมินเป็นหวานเย็นรสโปรด
คนตัวเล็กแอ่นอกรับอย่างรู้งาน
ส่วนล่างที่หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกันยังคงทำหน้าที่ดังเดิม
เจโน่เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นจนขาของโอเมก้าหนุ่มสั่นเพราะเริ่มไร้เรี่ยวแรงเต็มที่
ยังไม่ทันที่จะพากันไปถึงยอดเขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยเสียงฝนที่เทลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
กลิ่นของไอดินลอยมาเตะจมูกอัลฟ่าหนุ่มจนสติขาดผึ่ง
เขาถอดแท่งเอ็นออกแล้วจับแจมินพลิกให้หน้าแนบกับถังไม้บ่มไวน์แล้วสอดเข้าไปที่ช่องทางอีกครั้งจนมิดโคน
ร่างกายร้อนรุ่มได้แรงอารมณ์กำลังพาให้ทั้งคู่เดินทางไปถึงส่วนยอดของชิงช้าสวรรค์
เสียงเนื้อกระทบกันดังแข็งกับเสียงสายฝนด้านนอกอย่างไม่มีมีใครยอมใคร ฟันคมกัดเข้าที่ท้ายทอยของเด็กหนุ่มเต็มแรงและนั่นคือการผูกพันธะระหว่างอัลฟ่าเจโน่กับโอเมก้าแจมิน
เสียงหอบหายใจถี่ปนกับเสียงครางหวานดังไปทั่วบริเวณ
เจโน่กระแทกเข้าไปเป็นครั้งสุดท้ายจนแจมินจุกไปหมด
กลิ่นของไวน์เคล้ากับกลิ่นของไอดินทำให้ภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นของความปรารถนาของกันและกัน
พวกเขาถูกดึงให้จมลึกไปยังห้วงความรู้สึกอันแสนวาบหวามแล้วถูกกระชากกลับขึ้นมาอีกครั้งเมื่อกระแสน้ำถูกปลดปล่อยออกมาในช่องทาง
#nominpetrichor
อ่านต่อในเด็กดีนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น